Easy Manage , Low Cost , Strong Secutiry

Easy Manage , Low Cost , Strong Secutiry
Thin SolutionSystem Co.,LTD Tel: 083 495 5863

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แจกฟรี วิธีการทำ remote office ฉบับเถ้าแก่ทำเอง

คุณผู้อ่าน... ท่านที่เคารพ


ท่ามกลางสถาวะวิกฤตน้ำท่วมขังอยู่แบบนี้  บริษัทและโรงงานหลายแห่ง เริ่มปรับตัวกันได้บ้างแล้ว ยังคงเดินหน้าทำงานกันตามปกติ พนักงานหลายคนต้องนุ่งกางเกงขาสั้นมาทำงานกันก็มี บางคนต้องเดินทางหลายต่อกว่าจะถึงโรงงานหรือบริษัทได้ บางบริษัทมีความช่วยเหลือหลายอย่างให้กับพนักงาน เช่นให้พักในโรงงานบ้าง จัดหาที่พักใกล้ๆที่ทำงานให้บ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ธุรกิจยังเดินหน้าต่อไป ถ้าไม่ทำอะไรเลยจะอด...ย กันทั้งเจ้าของและพนักงาน ก็ต้องสู้กันไปทั้งสองฝ่ายหล่ะครับ


วันนี้ผมจะแนะนำเครื่องมือที่ช่วยการทำงานในสภาวะวิกฤตแบบนี้เรียกว่า "remote office" ช่วยให้พนักงานในกลุ่มออฟฟิตทำงานร่วมกันได้จาก anywhere anytime anydevice ให้เข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทได้ โดยไม่ต้องลุยน้ำฝ่าอันตรายทั้งจาก "งู" และ "จรเข้" เมืองกรุงให้เสียวใส้


เพื่อให้เห็ภาพขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง ไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง ลูกค้าของผมรายหนึ่งย้ายเครื่องเซิร์ฟเวอร์หนีน้ำไปชั้นสอง พนักงานออฟฟิตจะต้องใช้ resource ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่เป็น File Sharing และ โปรแกรม Express  กันทุกคนจะทำงานให้ต่อเนื่องได้ ต้องเข้ามานั่งทำที่ออฟฟิตเท่านั้น ผมทำเครื่องเซิร์ฟเวอร์นั้นให้เป็น remote office ให้พนักงานเข้าถึง file sharing และโปรแกรม express ได้บนคอมพิวเตอร์ของตนเอง ใช้งานผ่านอินเทอร์เน็ต การประมวลผลต่างๆยังคงอยู่บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์เหมือนเดิม การ save file ก็ยังคงอยู่บนเซิร์ฟเวอร์เหมือนเดิม เพื่อร่วมงานฝ่ายอื่นก็ยังคงนำไฟล์ไปใช้งานได้เหมือนเดิม โดยไม่ต้องถ่อเรือและสังขารมาเข้าออฟฟิต ตอนนี้เจ้านายนั่งทำงานสบาย ๆ อยู่หัวหินครับ ดูโรงงานผ่านกล้องวงจรปิด ดูรายงานการทำงานทุกอย่างได้เหมือนเดิม ธุรกิจก็เดินไปได้.. เหมือนเช่นปกติ




พูดเสียยืดยาว เพราะผมจะแนะนำท่านให้ทำอย่างนี้เหมือนกัน...


 ของฟรี และดี.. จะมีในโลกอยู่หรือ? ลูกค้าตัวอย่างของผมด้านบนนั้น ใช้งบลงทุนทั้งสิ้น "หนึ่งแสนบาท" ครับหนึ่งแสนบาทสำหรับ remote office แบบนี้ เจ้านายนั่งทำงานสบาย ๆ อยู่หัวหิน "ด้วยเงินหนึ่งแสนบาท" นะครับ


ผมหาวิธีที่จะช่วยให้ท่านได้ใช้ระบบแบบนี้ อย่างรวดเร็วและง่าย ๆ จึงได้เขียนเอกสารสอนแบบ step by step ในแบบฉบับเถ้าแก่ทำเอง ไม่อิงหลักการให้ปวดหัวแจกท่านฟรี ๆ เพื่อความเป็นธรรมกับลูกค้ารายอื่น(ที่เสียเงินไปแล้ว) ท่านจะใช้งานในฟังก์ชั่นเต็ม ๆ ได้ 30 วัน "ของฟรี ๆ และดียังมีอยู่ แต่จำกัดจำนวนวัน"
เพียงท่านส่งเมล์แจ้งรายละเอียด และบริษัทที่จะใช้ ถึงผม ๆ จะจัดส่งเอกสาร ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือต่าง ๆ ให้ อีกทั้งมีช่องทางเฉพาะสำหรับให้คำแนะนำได้ด้วย



30 วันก็น่าจะดีไม่น้อย และน้ำคงลดพอดี ไม่แน่ว่าครบ 30 วันแล้วท่านอาจจะไม่อยากเข้า office เลยก็ได้... เดี๋ยวจะหาว่าผมโม้..อิอิ


Email: tawich.it3@gmail.com , k.tawich@hotmail.com

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เปิดอบรม "Remote Office ง่าย ๆ ดัวยตัวคุณเอง"

เปิดแล้วครับ...
ที่นี่

วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ทำไมต้องใช้ 2X Published Application



2X Published Application Server นั้นเหมาะสำหรับใช้ในองค์กรธุรกิจทุกประเภทที่ต้องการรูปแบบการจัดการซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับองค์กร และขยายการใช้ software ต่าง ๆ ออกไปตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เพื่อลดต้นทุนและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือกว่าคู่แข่งในกิจการเดียวกัน

การเขียน Application เดียวให้ครบกับทุกแพลทฟอร์ม ทั้งปัจจุบันและอนาคต

การเขียนซอฟต์แวร์ให้รันบนแพลทฟอร์มต่าง ๆกันเช่น Windows,Linux,Mac หรือแพลทฟอร์ม Smartphone เช่น iPhone,Android และบน Tablet เช่น iPad เป็นต้น จะต้องลงทุนสักเท่าไหร่ทั้งการเขียน code ใหม่ การเรียนรู้เทคโนโลยี การจ้างบุคคลากรผู้เชียวชาญ การทดสอบสอบระบบ จนกว่าจะออกเป็น release ที่ใช้งานได้ และเมื่อเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องตามแก้ไข code เหล่านั้นด้วยการลงทุนอีกเท่าไหร่?

2X จะช่วยจัดการ “ให้ software รันได้กับทุกแพลทฟอร์ม” โดยไม่ต้องเขียน code ใหม่

ด้วยเวลาที่รวดเร็ว –  ทำให้ software เดิม ๆ ที่มีอยู่แล้วรันบนแพลทฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะทดสอบสภาพการทำงานได้เลยทันที หากต้องการจะเขียน software บนแพลทฟอร์มนั้นเพื่อทราบข้อมูล สถานะและสิ่งที่ควรจะทำใน software ใหม่ของคุณ

ใช้งานได้ทันที – 2X จะทำให้ software บนแพลทฟอร์ม windows รันบน Linux , Mac , iPad,iPhone,Android ได้อย่างราบรื่น สะดวกรวดเร็ว รองรับทุกภาษา ทั้งการคีย์ข้อมูลและการพิมพ์

ประหยัดต้นทุน – การที่ไม่ต้องเขียน code ใหม่เท่ากับตัดส่วนที่จะลงทุนเพิ่มออกไปทั้งหมด ในเทคโนโลยีหรือบุคคลากร  2X ยังประหยัดลงไปได้อีกด้วยค่า license แบบ SME ที่มี feature เต็มทุกฟังก์ชั่น

ต้องเขียน Application จาก Windows-Based ไปเป็น Web-Based ?

รองรับกับ browser ทุกตัวหรือไม่? ใช้ได้ดีกับบาง browser แต่กับอีก browser หนึ่งมีปัญหาหรือไม่?   เพราะแต่ละ browser ต่างก็มีสถาปัตยกรรมต่างกัน หากความต้องการเปลี่ยนโปรแกรมไปเป็น web-base เพื่อให้สามารถเข้าใช้งานได้จากทุกที่โดยไม่ขึ้นอยู่กับว่า device นั้น ๆ จะเป็น OS อะไร อย่างนั้นแล้ว 2X published Application จะเข้ามาตอบสนองความต้องการนั้นได้อย่างลงตัว 2X ไม่ได้ทำให้โปรแกรมดังกล่าวรันผ่าน browser แต่สามารถทำให้คุณเข้าถึงโปรแกรมเหล่านั้นได้จากทุกๆที่ จากทุก ๆ device โดยการส่งตัวโปรแกรมให้ไปรันบน device นั้นๆ

ใช้ VPN ระหว่างไซต์ อุปกรณ์ที่ใช้มีมาตรฐานเดียวกัน และต้นทุนรายจ่ายค่าเชื่อมโยงต่อเดือน

มาตรฐานของ VPN ที่คุณใช้และต้นทุนค่าเชือมโยงไซต์ต่อเดือนที่ต้องพิจารณา การดูแลระบบ VPN โดยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน IT Security สูง และประเภทของ VPN ที่เลือกใช้มีผลต่อความปลอดภัยและการขยายระบบในอนาคต

2X จะช่วยลดภาระการดูแลของระบบเชื่อมต่อ โดยใช้เพียงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วไป ง่ายต่อการดูแลและแก้ปัญหาโดยไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคมากนักทำให้การขยายระบบต่อไปทำได้ง่ายและทำได้ทันที อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูงกว่าด้วยความปลอดภัยของ 2X ที่มี filter ได้ในระดับ MAC Address,User Authorize และ SSL Gateway รับประกันความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ที่ใช้ผ่าน 2X ได้อย่างดี

ต้องใช้โปรแกรมในแบบ Remote Desktop

การใช้โปรแกรมที่ต้องเข้าถึงแบบ remote desktop ย่อมเสี่ยงต่อความปลอดภัยเพราะผู้ใช้งานควบคุมหน้าจอและเข้าถึง resource ต่าง ๆของเครื่องให้บริการได้อีกทั้งยังมีการเชืมต่อหลายขั้นตอนไม่สร้างความคุ้นเคยให้กับผู้ใช้งานมือใหม่อีกด้วย

2X จะเสริมความปลอดภัยให้กับการทำงานแบบ remote desktop ทั้งในระบบแลนภายในและผ่านอินเทอร์เน็ตโดยจัดให้ผู้ใช้งานเห็นเฉพาะโปรแกรม ที่ตนเองมีสิทธิ์ใช้งานเท่านั้น และยังสามารถจัดเวลาในการเข้าใช้โปรแกรมนั้นๆได้อีกด้วย อีกทั้งการใช้งานยังเป็นแบบ user friendly เหมือนกับใช้โปรแกรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเองโดยไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ โดย 2X จะช่วยให้การรันโปรแกรมเหล่านี้มีความเร็วมากขึ้นจากระบบ synchonize และความปลอดภัยสูงจากอินเทอร์เน็ตด้วยการเข้าถึงแบบ SSL Gateway อีกด้วย

ต้องสั่งงานพิมพ์เอกสาร ให้ไปออกอีกสาขาหนึ่ง

เช่นบริษัที่มีระบบคลังสินค้าแยกอยู่ต่างหากจาก office มีศูนย์กระจายสินค้าหรือ logistic อยู่อีกแห่งหนึ่งที่่ต้องรับคำสั่งหรือการประมวลผลจากดาต้าเบสหลักของบริษัท และส่งผลลัพธ์ออกมาที่เครื่องพิมพ์ของคลังสินค้าหรือศูนย์กระจายสินค้าเลย นั้น ต้องมี solution ที่เหมาะสมและมีความปลอดภัย

2X จะสามารถรองรับงานลักษณะนี้ด้วยคุณสมบัติ Universual Printer ที่สามารถส่งงานพิมพ์ไปยังเครื่องพิมพ์ปลายทางผ่านอินเทอร์เน็ตโดยผลลัพธ์ ไม่ผิดเพี้ยน มีความเร็วไม่ต่างจากการพิมพ์ที่ local มากนัก จะทำการบริหารคลังสินค้า หรือการแจกจ่ายงาน logistic จากศูนย์กลางเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว

ต้องการ manage software ทั้งค่าไลเซนต์และจำนวนการใช้งาน

ด้วยการจัดการค่าไลเซนต์ซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานปริมาณมากๆ การติดตั้งหรือการ upgrade ซอฟต์แวร์กับเครื่อง client ปริมาณมาก ต้องใช้บุคลากรและเวลา จึงต้องการระบบจัดการที่รวมศูนย์แห่งเดี่ยวและกระจายผลลัพธ์ไปยังเครื่องอื่น  ๆ หรือเรียกว่า centralize management

2X ช่วยให้การทำงานแบบ Centralize Management ง่ายและสะดวกยิ่งกว่าด้วยการกำหนดจำนวนการใช้ซอฟต์แวร์ตาม license การควบคุมผู้ใช้ ซอฟต์แวร์และช่วงเวลาการใช้เป็นต้น ทั้งง่ายต่อการเรียนรู้โดยหน้าจอคอนฟิกในหน้าจอเดียวไม่มีความสลับซับซ้อนใด ๆ โดยฝ่ายไอทีไม่ต้องเรียนรู้ระบบที่ซับซ้อน ก็สามารถบริหารจัดการระบบให้ซับซ้อน ปลอดภัยได้ในหน้าจอเดียวของ 2X

ความต้องการอื่นๆ ที่ 2X ช่วยตอบโจทก์ให้กับองค์กรของท่านได้

2X ยังช่วยให้การใช้ซอฟต์แวร์ใด ๆที่มีอยู่แล้วข้ามแพลทฟอร์มทั้งจากแลนและอินเทอร์เน็ตอีกด้วย เช่น ทำให้โปรแกรมบัญชี Express,CD-Organizer,Winspeed หรือ Payroll นั้นสามารถใช้ได้บนเครื่องพีซีที่เป็น Linux , Mac และบน Smartphone ไม่ว่าจะเป็น iPhone,iPad,Android ทั้งจากในวงแลนและจากอินเทอร์เน็ตได้ โดยไม่ต้องแปลง code หรือ upgrade เวอร์ชั่นใหม่

2X ยังเป็นซอฟต์แวร์ที่ผู้ผลิต thin client รายใหญ่ๆของโลก embended ลงในเครื่อง thin client ของตน เพื่อใช้เป็น connector หนึ่งสำหรับการเข้าใช้ซอฟต์แวร์โดยเครื่อง thin client technology อีกด้วย

นอกจากนี้ 2X ยังรองรับเทคโนโลยี Virtual Desktop Infrastructure (VDI) ที่บางไครเอนต์ยังคงต้องได้รับสิทธิ์ของ desktop ทั้งหมดในการจัดการซอฟต์แวร์ใด ๆ ที่ใช้ protocol เฉพาะเจาะจงของตนเองเท่านั้นไม่ว่าจะเป็น VDI จาก Hyper-V หรือจาก VMware ก็ตาม

2X Published Application Server มีคุณสมบัติต่างๆเช่นเดียวกับ Cirtix XentDesktop จึงจัดเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับองค์กรที่กำลังพิจารณา XentDesktop อยู่โดย 2X ได้รับการกล่าวถึงในเรื่องการติดตั้งง่ายเหมือน windows application ทั่วไปไม่ซับซ้อน ทั้งการ published application หรือ publish VDI คอนฟิกผ่าน 2X Console หน้าต่างเดียวที่เข้าใจได้ง่าย อีกทั้งมีความปลอดภัยสูงด้วย SSL Gateway , Filter MAC Address,User เป็นต้น ทั้งยังมี load balance รองรับระบบขนาดใหญ่ที่เป็น Enterprise อีกด้วย โดยคุณสมบัติเหล่านี้ ลงทุนด้วยงบประมาณต่ำกว่า citrix หลายเท่าตัว….

Testimonials & Partners

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Remote Office ตอนที่สองว่าด้วยสร้าง File Server บน Internet

คุณผู้อ่าน.. ท่านที่เคารพ

ก็ถึงตอนที่สองของเรื่อง การทำ remote office เพื่อใช้งานออฟฟิตให้ได้ในยุคที่น้ำยังท่วมเจิ่งนองอยู่แบบนี้ครับ ซึ่งตอนนี้จะเป็นเรื่องการแชร์ไฟล์ข้ามอินเทอร์เน็ตระหว่างทีมงาน โดยจะเลือก tools ที่เหมาะสมซึ่งผมจะเปิดเผยให้รู้เช่นเห็นชาติต่อไป

ในออฟฟิตปกติจะมีเครื่องไฟล์เซิร์ฟเวอร์ให้บริการแชร์ไฟล์ ให้พนักงานได้เก็บข้อมูลและแลกเปลี่ยนกับผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการ มีประโยชน์ช่วยให้พนักงานใช้ไฟล์นั้น ๆ ได้จากทุกที่ในออฟฟิต เพราะไฟล์นั้นไม่ได้เก็บอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของพนักงานเอง และไฟล์ประเภทฐานข้อมูลต่าง ๆ เช่น Express , CD-Organizer ที่จะต้องถูกเรียกใช้จากโปรแกรมหลายๆเครื่องก็มีความจำเป็นต้องอยู่ในที่ๆ เดียว ที่เครื่องอื่น ๆ จะเข้ามาใช้งาน ซึ่งก็คือไฟล์เซิร์ฟเวอร์นั่นเอง ที่นี้เมื่อต้องทำงานเป็น remote office ต่างคนต่างอยู่คนละแห่ง จะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานเช่นนั้นขึ้นมาได้อย่างไร ?

คำตอบก็คือ ต้องสร้างสถานที่เก็บไฟล์ที่เข้าถึงได้พร้อมกัน โดยเปลี่ยนจากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทให้เป็นอินเทอร์เน็ต 

เมื่อไฟล์นั้นถูกแก้ไขโดยบุคคลหนึ่ง บุคคลอีกสถานที่หนึ่งก็จะมองเห็นการเปลี่ยนแปลง และใช้ประโยชน์จากไฟล์นั้นต่อไปได้ทันที โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการ download/upload ให้เสียเวลา พอจะสนใจขึ้นมาบ้างไหมหล่ะครับ

และผมจะแนะนำเครื่องมื่อมหัศจรรย์เรียกว่า Dropbox เพื่อทำหน้าที่ดังกล่าวให้ท่าน ณ บัดนี้

Dropbox ให้บริการรับฝากไฟล์ต่างๆ มีโครงสร้างเป็น cloud storage อยู่บนอินเทอร์เน็ตรองรับทั้งเครื่องพีซี linux , mac , iPad , iPhone ,Android ต่าง ๆ จะว่าไปแล้วก็เหมือนกับกล่องไปรษณีย์ที่เราเช่าอยากจะให้ใครส่งจดหมายถึงเรา ก็ไม่จำเป็นต้องส่งมาที่บ้าน ส่งไปที่ตู้ปณ. ที่เราเช่าไว้ ถึงเวลาเราก็ไปเปิด ส่วน dropbox นัยหนึ่งเหมือนตู้ ปณ. ที่ว่านั่น แต่ดีกว่าเยอะตรงที่เมื่อใครส่งไฟล์ไปยัง box ของเรา ๆก็จะได้รับและเห็นไฟล์นั้นแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่ต้องเสียเวลาเข้า website แล้วไปเปิดดูในกล่อง dropbox อีกที

และสิ่งท่ผมเลือก dropbox ให้ท่านก็ด้วยความดีของ dropbox ที่่ยอมอุทิศพื้นที่และคุณสมบัติดีๆให้เราผู้ไม่เคยมีคุณูปการต่อกันมาก่อน ได้ใช้ คือ
  1. FREE — คุณสมบัติข้อนี้สำคัญในช่วงที่่เงินเราหายไปกับน้ำเยอะขนาดนี้เซฟได้ก็ต้อง เซฟครับ dropbox ใจป้ำแจกพื้นที่ให้ฟรีก่อน 2GB เมื่อสมัครครั้งแรก ที่ว่า 2GB ก่อนก็คือคุณหรือเรามีโอกาสขยายพื้นที่่ให้มากขึ้นสูงสุดถึง 8GB ทีเดียวเชียวหล่ะครับท่านโดยแนะนำคนอื่น ๆ สมัคร dropbox ต่อจากเราๆก็จะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกคราวละ 250MB ไปเรื่อยๆจนเต็ม 8GB นั่นแล ถ้าในบริษัทมีพนักงานสัก 24 คนสมัครไขว้กันไปไขว้กันมาเหมือน MLM คุณจะมีพื้นที่ใช้งานฟรี ๆ ในองค์กรเท่ากับ 129GB ภายในชั่วพริบตา โอ้แม้เจ้า.. คำนวณยังไงลองไปแกะดูครับ
  2. ใช้ได้กับ Windows,Mac,Linux,iPad,iPhone,Android และ BlackBerry อืม..มีอีกไหมครับพนักงานของท่านที่ใช้เครื่องมือทันสมัยไปกว่านี้อีก เพิ่มความสะดวกและสบายให้กับการใช้ไฟล์เป็นอย่างยิ่ง ก็ตอนนี้ผมกำลังพูดถึงการเข้าถึงไฟล์แบบ remote office อยู่จึงไม่สามารถกะเกณฑ์ผู้ใช้งานของเราหรือของท่านให้ใช้ windows แบบนั้นแบบนี้ เอาเป็นว่าเขาใช้อะไรเข้าถึงไฟล์และเปิดดูเนื้อหาได้ก็เพียงพอและเจ้า dropbox ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ เลยใช้ได้กับ device สมัยใหม่เกือบจะทุกค่ายเสมอกัน
  3. เข้าถึงไฟล์ได้หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นผ่าน website หรือ dropbox client ที่เป็นโฟลเดอร์หนึ่งในคอมพิวเตอร์ของเรา การเข้าถึงไฟล์ผ่าน website ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือจะทำให้ dropbox พิเศษแตกต่างจาก cloud storage อื่นๆไปได้และไม่ใช่คุณสมบัติที่เราจะเอามาใช้เป็นไฟล์เซิร์ฟเวอร์ของเราใน ที่นี้ด้วย แต่ dropbox client นี่แหละคือสุดยอดคุณสมบัติที่เหมาะสมและต้องการสำหรับไฟล์เซิร์ฟเวอร์ เจ้า dropbox จะให้ engine ที่เรียกว่า client มาฝังอยู่ทีคอมพิวเตอร์ของเราซึ่งจะทำการเชื่อมโยงไปถึงโฟลเดอร์ต่างๆที่ อยู่ในอินเทอร์เน็ตอัตโมัติ เขาเรียกวิธีการนี้ว่า syschonize เมื่อเราจะเปิดไฟล์ก็ดี เซฟไฟล์ก็ดี หรือจะต้มยำทำแกงกับไฟล์ก็ดี ก็ทำที่โฟลเดอร์ dropbox นั้นโดยตรง ๆ เหมือนกับเปิดไฟล์จากคอมพิวเตอร์ตัวเองนั่นแล ส่วนผลที่จะเกิดนั้นสะเทือนถึงดวงดาวเชียวหล่ะครับ ท่านจะเข้าใจสิ่งที่ผมพูดมากขึ้นเมื่ออ่านในข้อที่ 4 ต่อไป
  4. Dropbox transfers just the parts of a file that change (not the whole thing) นี่ยกเอาคำต้นฉบับมาให้อ่านกันเลยว่าการแก้ไขไฟล์ที่คอมพิวเตอร์ของเรา สะเทือนถึงดวงดาวได้ขนาดไหน ไฟล์ที่มีการเปลี่ยนแปลงใน folder dropbox นั้นจะถูกปรับปรุงเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนแปลงเท่านั้น ไม่ได้โยนไปโยนมาทั้งลูก ทำให้ไฟล์ได้รับการปรับปรุงอย่างรวดเร็ว ผู้ที่รองานอยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำโน่นก็จะได้เห็นไฟล์ที่เปลี่ยนแปลง แล้วอย่างรวดเร็ว และคุณสมบัติข้อนี้คือ การมีโฟลเดอร์ในคอมพิวเตอร์ได้และ ปรับปรุงเฉพาะส่วนที่เปลี่ยนแปลงนี่แหละเหมาะที่จะวางไฟล์ฐานข้อมูลของ โปรแกรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น CD-Organizer,Express,Payroll ยิ่งนัก
  5. Manually set bandwidth limits — Dropbox won’t hog your connection. ขออีกข้อหนึ่งเถอะครับ ท่านจะได้รู้แจ้งเห็นชาติไปเลยว่าท่านเป็นนายของ dropbox สามารถกำหนดความเร็วในการ transfer ได้ด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่าโฟลเดอร์ dropbox จะ synchonize กับ cloud storage อยู่ตลอดเวลา ก็ไม่ได้รบกวนโปรแกรมอื่น ๆ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ด้วยให้ช้าลงเลย

Dropbox ยังมีคุณสมบัติไม่หมดเพียงเท่านี้นะครับ สำหรับนักพัฒนาแล้วยังมี Dropbox API ที่ทำช่วยท่านเขียนโปรแกรมเรียกใช้พื้นที่ cloud storage ได้อีก เพิ่มความสะดวกและทางเลือกในการเรียกใช้ในแบบฉบับของท่านเองอีกด้วย

ผมยก dropbox มานำเสนอให้เห็นภาพคร่าว ๆ ว่าจะสามารถนำคุณสมบัติที่มีอยู่ไปใช้ทำไฟล์เซิร์ฟเวอร์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ อย่างไร เบื้องต้นให้ท่านไปสมัคร dropbox เป็นของตัวเองเสียก่อน แล้วก็อย่าลืมแนะนำเพื่อนๆพนักงานสัก 24 เหมือน MLM เพื่อให้ได้พื้นที่เยอะๆเอามาแบ่งปันกัน การสมัครก็ไม่ยากครับ ง่ายๆพอๆกับสมัคร facebook นั่นเลย แล้วคราวหน้าผมจะมาทำ file server แบบจับมือท่านทำทีละขั้นๆ โดยไม่ต้องเสียตังค์แม้แต่บาทเดียว..

โปรดคอยติดตามครับ..

เอวัง

สมัคร Dropbox ที่นี่

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อารมณ์ขันแฝงปรัชญาของท่าน "วสิษฐ เดชกุญชร" เมื่อ 50 ปีก่อน

คุณผู้อ่าน... ท่านที่เคารพ

ช่วงนี้เครียดกับข่าวน้ำท่วม และจิตใจของเราที่ต้องรอคอยเหตุการณ์บางอย่าง.. จนจะเป็นโรคจิตอ่อน ๆ เข้าไปทุกขณะอยู่แล้ว ก็เผอิญได้เห็นหนังสือเล่มหนึ่งของเพื่อนบ้านที่กำลังเก็บของหนีน้ำอยู่ หนังสือที่มีหน้าปกเขียนด้วยตัวหนังสือสีแดงแบบเรียว ๆ ว่า "วสิษฐ เดชกุญชร" ในบรรทัดแรกและบรรทัดถ้ดมาเป็นตัวพิมพ์สีดำความว่า "รำลึกชาติ (นี้)"  แค่เห็นชื่อผู้เขียน ความปีติก็บังเกิดในจิตใจ รู้สึกเบาหวิวและริงโรดเหมือนเจอคนที่รู้จักและอยากเจอมานานเช่นนั้น ท่านคงเดาได้ถูกว่า ผมต้องขอหยิบยืมหนังสือเล่มนั้น จากเพื่อนบ้านทันที เพื่อ "รำลึกชาติ ถึงท่านวสิษฐ เดชกุญชร" บุคคลที่ผมชื่นชอบในผลงานวรรณกรรมของท่านมาโดยตลอด



อันที่จริงช่วงนี้ เอ.. หรือว่าหลายปีมานี้ อืม.. เอาเป็นว่าตั้งแต่หลุดออกมาจากรั้วมหาลัยที่อุตสาห์อยู่จนครบครบ 4 ปีแล้วนั่นแหละ ผมก็หายไปจากการอ่านวรรณกรรมไปเลย ทั้งนี้มันมีเหตุผลครับ .. ผมต้องใช้สมองซีกซ้ายมากขึ้น ต้องหาเหตุและผลความเป็นตรรกะของงานที่ทำอยู่จนเกือบจะลืมไปว่า ยังมีสมองซีกขวาอีกข้างไว้ใช้งานได้อยู่ ทำให้เมื่อพบเห็นชื่อและหนังสือเล่มดังกล่าว จึงทำให้รู้สึกเบาหวิวและริงโรดอย่างที่บอกไว้นั่นแหละครับ

ผมอ่านหนังสือของท่านวสิษฐ เดชกุญชร อยู่บ้างหลายเล่ม เช่น จันทร์หอม สารวัตรใหญ่ เป็นต้น เรื่องราวส่วนใหญ่ออกไปแนวบู๊ ยิงกันสนั่นเมือง ตลอดทั้งเรื่องคนดีต้องสังเวยชีวิตไปไม่ใช่น้อย จนไม่อยากจะเป็นคนดีเหมือนในวรรณกรรมของท่านไปเลยนั้นเชียว ก็น่าจะสมเหตุผลอยู่ เพราะท่านมีอาชีพเป็นตำรวจนี่ครับ เรื่องราวจึงออกไปในแนวบู๊ล้างผลาญกันอย่างนั้น..

แต่.. เล่มที่ผมอ่านอยู่ "รำลึกชาติ (นี้)" ทำให้ผมได้รู้จักตัวตนของท่านวสิษฐ ในอีกมุมหนึ่งที่แตกต่างออกไปเหมือนเคยรู้จักแต่ซ้าย แล้วมารู้จักขวา หรือเคยเห็นแต่สีขาว แล้วจู่ ๆก็มาเห็นสีดำ ตัวตนที่มีอารมณ์ขันอยู่ในตัวตนของหนังสือและแฝงด้วยปรัชญา แนวความคิดทั้งที่เป็นปัจจุบันและแบบอุดมคติ ทำให้ต่อมความคิดของสมองซีกขวาที่จินตนาการไปในอุดมคติกับสมองซีกซ้ายที่เก็บเอาอุดมคติเหล่านั้นออกมาเป็นตรรก หาเหตุและผลเชื่อมโยงกันเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตปัจจุบัน อยากที่เรียกขานว่า "เป็นคนดี" คนหนึ่งของสังคมนี้ได้เลยทีเดียว

หนังสือ "รำลึกชาติ (นี้)" โดยสำนักพิมพ์ ประพันธ์สาส์น พิมพ์ครั้งที่สองพฤศจิกายน 2533 ได้รวบรวมเรื่องสั้นที่ท่านเขียนไว้ในหนังสือพิมพ์ สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ปิยมิตรวันจันทร์ และหนังสือชาวกรุง ในช่วงปี 2498-2500 เรื่องราวเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ซึ่งเรื่องสั้นเหล่านี้ยังคงอ่านสนุกได้แม้ในสมัยปัจจุบัน

เรามาลองดูอารมณ์ขันและปรัชญาชีวิตในเรื่องสั้นเหล่านั้นพอเป็นยากระสายกันสักหน่อยประไร

"หมากับผม หรือผมกับหมา" ที่กล่าวถึง บทสนทนาของชายคนหนึ่งกับหมาแปลกประหลาด "หมาทรุดตัวลงนั่งบนสองขาหลัง เอาสองขาหน้ายันพื้นไว้ แล้วมองหน้าผมด้วยแววตากึ่งดูถูกกึ่งสมเพชร "แล้วนี่คุณยังแน่ใจหรือว่า คุณประเสริฐกว่าผม" ผมสะดุ้งสุดตัว...ลุกพรวดพราดยืนขึ้นจ้องดูหมาเจ้าคารมตัวนั้นอย่างเดือดดาล.. ผมแค้นใจจนเกือบจะกลายเป็นหมาไปในชั่วพริบตัวนั้น"

บทเกริ่นนำในเรื่อง "หมากับผม หรือผมกับหมา" อ่านเรื่องสั้นนี้จบแทบจะทำให้ผมเป็นหมา .. เอ้ย..รู้ว่าผมไม่ได้ประเสริฐกว่าหมาในแง่ของการใช้ชีวิตอยู่ด้วยปัจจัยสี่สักเท่าไหร่ หรืออาจจะแย่ไปกว่าหมาด้วยซื้ำ ถ้าหากผมไม่มีคุณธรรมที่ยังคงเรียกตัวเองได้ว่าเป็นมนุษย์ได้ หากท่านคิดว่าตัวเองประเสริฐกว่าหมาก็ลองอ่านเรื่องสั้นนี้ดูครับ... คำตอบจะเปิดเผยตัวมันในใจท่านเองครับ

หรือ "กำเนิดของสังคม" ที่พวกเราชอบอ้างว่าสังคมนั้นเป็นอย่างนี้ สังคมนี้เป็นอย่างนั้น ประเทศชาติต้องประชาธิปไตย ประชาธิปไตยดีที่สุด เมื่ออ่านเรื่องนี้จบ ท่านจะเห็นจุดยืนของท่านและมุมมองประชาธิปไตยแตกต่างไปจากที่มหาลัยสอนและนักการเมืองชอบกล่าวอ้างกันเสียจริง ๆ

"นายเป็นพวกบ้าประชาธิไตย และบ้าชนิดที่เกือบจะแก้ไม่หายแล้วด้วย นายปล่อยให้ความเห็นคนส่วนมากเป็นนายความเห็นของตนเองจนถึงขนาดที่ว่า ถ้าคนหมู่มากชี้มือไปที่คนคนหนึ่งแล้วบอกนายว่า นั่นคือหมา นายก็คงต้องยอมเชื่อโดยปราศจากความสงสัย"

หรืออีกหลายเรื่องที่มีอารมณ์ขันในตัวอักษรและแฝงความคิดอันทันสมัย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า 50 ปีที่แล้วเรื่อง UFO หรือมนุษย์จากดาวอังคารจะเป็นเรื่องธรรมดา ๆ มากที่ท่านวสิษฐได้เอามาผูกเรื่องไว้ใน "คนดีของศรีประไพ"  หรือจะเรื่องหักมุมสุดขั้วบวกกับลบกันเลย ก็เรื่อง "เหตุเกิดบนสะพานใหม่" ที่สะท้อนให้เห็นเบื้องลึกของจิตใจมนุษย์คนหนึ่งเมื่อถูกกระตุ้นด้วยสถานการณ์นิดเดียว การตัดสินใจในเรื่องที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นได้เสมอ.... เหมือนผู้ชายกับผู้หญิงซึ่งต่างไม่รู้จักกันเลยบนสะพานพุทธแห่งนั้น..

ยังมีอีกหลายเรื่องครับ ก็เกริ่นไว้ให้รับรู้พอเป็นยากระสาย ท่านสนใจก็ลองหาหยิบยืม.. หรือจากร้านขายหนังสือเก่า ๆ ดู ส่วนเล่มนี้เห็นทีผมจะนำไปคืนเจ้าของก่อน

ประเดี๋ยวน้ำมาของที่ชาวบ้านบริจาค เอ็ย... หนังสือจะเปียกเอาไปคืนเจ้าของเขาไม่ได้

เอวัง..

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Remote Office ยุคมหาวิกฤตภัยน้ำท่วมตอนที่ 1 Writeboard

คุณผู้อ่าน…ท่านที่เคารพครับ


ในสถานการณ์น้ำท่วมกันเป็นเดือนแบบนี้ การเข้าทำงานในบริษัทเห็นจะเป็นเรื่องวุ่นวายมาก ทั้งการเดินทางและความปลอดภัย แต่ว่าธุรกิจมันไม่หยุดอยู่กับน้ำนี่ครับ มันยังคงดำเนินต่อไปตามวัฏจักรของการทำมาหากิน พวกเรามนุษย์ทำงานเองนี่แหละที่จะต้องหาวิธีปรับตัวทำงานให้ได้กับสถานการณ์แบบนี้ โดยเฉพาะงานออฟฟิตที่เรียกกันว่า Back Office ทั้งหลายที่ไม่ได้ยุ่งกับเครื่องจักรกลใด ๆ เลย นอกจากคอมพิวเตอร์และเอกสารต่าง ๆ เท่านั้นจึงสามารถจะทำงานที่ไหนก็ได้ เมื่อก่อนก็เคยมีแนวความคิดให้ทำงานที่บ้านบ้าง เข้างานเป็นเวลาบ้าง สิ่งที่น่าสนใจก็คือเมื่อต้องทำงานร่วมกับคนอื่นในบริษัท การแชร์ไฟล์ การใช้ข้อมูลร่วมกัน ที่เป็นสิ่งจำเป็น หากอยู่ในบริษัทเรามีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ มีซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลที่ใช้ได้ แล้วทีนี้อยู่ที่บ้านเราจะมีข้อมูลร่วมกันกับคนอื่น เราจะเข้าถึงซอฟต์แวร์ฐานข้อมูลนั้น ๆ ร่วมกันได้อย่างไร?

ทำงาน Remote Office สุขสบายกว่าเป็นไหนๆ

เอาหล่ะ ไหน ๆ ผมได้เสนอปัญหาให้คุณผู้อ่าน..ท่านที่เคารพได้เห็นภาพแล้ว อย่ากระนั้นเลยครับ ผมขอเสนอวิธีการที่่จะทำให้บริษัทของท่านได้ทำงาน backp office ในสถานการณ์น้ำท่วมขังแบบนี้ได้ โดยจะแบ่งเป็นสามหัวข้อที่เกี่ยวกับการทำงานในออฟฟิตมากทีสุดคือ

1.การทำงานร่วมกันที่ต้องแสดงความเห็นต่าง ๆ การสร้างแผนงาน การตามงาน การสรุปผลงานต่าง ๆ เช่น team, หัวหน้าสั่งงานลูกน้อง,ตามงานไปถึงไหนแล้วเป็นต้น

2.การต้องใช้แชร์ไฟล์ข้อมูลร่วมกัน เช่นการคีย์ข้อมูลในไฟล์เดียวกันเป็น work flow ของ process งานบางอย่างที่ต้องคีย์ลงไปในไฟล์เดียวกันจากหลายๆหน่วยงาน เป็นต้น

3.การใช้ Software ที่จำเป็นในออฟฟิตเช่น บุคคล,เงินเดือน,บัญชี,ERP ต่าง ๆเป็นต้น

โดยสมมุติฐานว่าท่านได้ปิด office แล้วแต่พนักงานยังต้องได้รับเงินเดือนและทำงานกันอยู่ แต่ต่างคนต่างอยู่ครับ การสั่งการทางโทรศัพท์ก็ดี ทางอีเมล์ก็ดี ทำมาหมดแล้ว งานก็ยังไม่ค่อยจะเดิน เดี๋ยวผมจะเสนอวิธีการที่เด็ดกว่านี้ให้ทราบครับ

สั่งการด้วยเอกสาร แน่นอนกว่า ถ้าให้ดีมันต้องสื่อสารได้ทั้งสองทิศทาง

ใช่แล้วครับ ในการทำงานร่วมกันเป็นทีม การสื่อสารมีความสำคัญมาก ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีสื่อแบบไหน เป้าหมายก็คือต้องให้ผู้รับสารเข้าใจและปฏิบัติได้ถูกต้องใช่หรือไม่ และในขณะที่สือสารออกไปนั้นผู้รับสารต้องมีช่องทางตอบกลับเพื่อยืนยันสารอย่างรวดเร็วอีกด้วย จากสมมุติฐานข้างต้นที่ทุกๆคนมองไม่เห็นหน้ากันเหมือนอยู่ในออฟฟิต ผมอยากแนะนำให้ใช้ writeboard ในการสื่อสารในอีกช่องทางหนึ่งแทนโทรศัพท์และ E-Mail ทั่วไป

Writeboard เป็น web-based text document ที่สำหรับให้เขียนข้อความ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารทางธุรกิจ โบว์ชัวร์ soucce code  แล้วแชร์ให้กับ team เข้ามาร่วมเขียน แสดงความคิดเห็นในเอกสารนั้นได้ โดย save เอกสารนั้นเป็น release ย้อนกลับไปยังเวอร์ชั่นก่อนหน้า และเปรียบเทียบกันได้ และยัง export เอกสารที่ทำเสร็จแล้วไปเป็น textfile และ html ได้ด้วย ที่สำคัญที่สุดก็คือ Writeboard FREE และใช้งานง่ายมาก


โธ่..ถังกะอีแค่ web ให้เขียน text file ธรรมดาๆมันจะต่างอะไรกับ webboard ของเชยๆ แบบนี้จะแนะนำให้เอามาใช้กับ business เลยหรือ???

คุณอาจจะคิดแบบนี้ก็ได้ครับ ใช่แล้ว writeboard ก็เป็นพื้นที่ให้เขียน text  ธรรมดานี่เองหน้าตาออกจะเชยๆอย่างที่ว่ามานั่นแหละ แต่เดี๋ยวก่อน ใน writeboard เขาบอกว่าเหมาะสมกับบุคคลที่ทำอาชีพต่อไปนี้

Writeboard is perfect for… Authors, journalists, PR folks, editors, and publishers Bloggers or freelance/independent writers Letter writers, songwriters, poets, comedians, creatives Students, professors, and groups collaborating on a paper …and plenty more! Writeboard is great for personal and business use

ดูเหมือนอาชีพเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับการเขียน และเอกสารทั้งนั้น แล้วเจ้าเอกสารนี่ถ้าเขียนไปเรื่อย ๆ เหมือน microsoft word มันก็มีแต่เวอร์ชั่นเดียว หากต้องการ save ให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ต้องเลือก save as เป็นอีกไฟล์หนึ่ง ส่วน writeboard นี่ซิครับถ้าคุณจะ save เขาให้เลือกว่า save เป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือจะ Minor edit เท่านั้นไม่ต้อง save เป็นเวอร์ชั่นใหม่ โปรแกรมเมอร์ที่ทำงานเป็น team จะเข้าใจเรื่อง release ดี ใครกันที่เขียน code ใหม่และ code ก่อนหน้าเป็นอะไร code ที่เขียนเข้าไปใหม่แตกต่างจาก code เดิมอย่างไร?

เห็นไหมครับ wirteboard เหมาะกับ programmer เป็นไหนๆ นักข่าวที่ต้องส่งข่าวให้บอกอก็ดี นักเรียนที่ต้องเขียนรายงานร่วมกันเพื่อนก็ดี นักประพันธ์ นักกลอน นักๆๆๆๆ….. ก็ดี ถ้าต้องการเขียนเอกสารและตรวจสอบเวอร์ชั่นย้อนกลับได้ ว่าที่ฉบับที่่ผ่านมากับฉบับปัจจุบัน แตกต่างกันอย่างไร writeboard นี่แหละเหมาะสมแล้วครับ

แล้วจะมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน office ยุคมหาวิกฤตนี้ได้ยังไง

ท่านลองคิดดูครับว่า ท่านสั่งการเป็น e-mail การ feedback กลับมาเป็นไงบ้าง? ส่งเมล์แล้วหายวับ… หลายวันจึงตอบกลับมา หรือส่งเมล์แล้วท่านก็ต้องโทรศัพท์ตามและสั่งการด้วยวาจาอีกรอบ...

ลำพังแค่แชร์ให้เพื่อนร่วมงานมาดูและแก้ไขเอกสารได้ พร้อมกับสามารถเก็บเวอร์ชั่นให้ตรวจสอบย้อนหลังได้อีก ก็น่าจะเพียงพอแล้วนะ.. แต่ wrieboard ยังไม่หมดเท่านั้นนะซิครับ ยังประยุกต์ใช้ในแบบ business เต็มตัวด้วยการทำงานเป็น collaborative โดยพ่วงกับ backpackit ที่คุณ ๆสามารถสร้างการทำงานเป็นทีมโดยมี ปฏิทินเวลา , บันทึก , แผนงานที่จะทำในแต่ละวัน , file shareing และ document ด้วย writeboard นี้ ทำให้การทำงานเป็นทีมไม่ตกหล่น และตรวจสอบแผนงาน เสนอความคิด โต้แย้ง แก้ไขกันได้ในปัจจุบันทันด่วนทีเดียว แต่ backpackit นั้นเสียตังค์ค่าบริการรายเดือนนะครับ มีฟรีบ้างเหมือนกันแต่ใช้ได้แค่สองคนเท่านั้น

ผมว่าในการทำงานที่เป็นการสั่งงาน การเขียนโปรแกรมร่วมกันเพียงเท่านี้ใช้ writeboard ให้ถนัด ๆ คล่อง ๆ ก็น่าจะเพียงพอ สำหรับปฏิทินและการแชร์ไฟล์ร่วมกันนั้นผมจะแนะนำให้ใช้ tools อีกตัวหนึ่งในบทความถัดไป

รับรองว่าท่านไม่เสียตังค์แม้แต่บาทเดียวครับ…

วิธีการใช้ writeboard

1. เข้าเว็บไซต์ http://www.writeboard.com
2. บรรเลงงานลงไปได้เลยครับ ที่ Creae a writeboard
2.1 เขียนหัวข้องานหรือเอกสารที่ 1. Name the writeboard
2.2 ใส่พาสเวิร์ดที่ต้องการ ให้จำด้วยนะที่ 2. Assign it a password เอาไว้ให้ท่านเข้ามาแก้ไขเอกสารคราวหน้าครับ
2.3 Enter your email address จากนั้นตอน I agree to the terms. 

แล้วเริ่ม Create the Writeboard ได้เลย

หน้าตาของ board สำหรับเขียนข้อความก็จะประมาณนี้ครับ


เสร็จแล้วคุณจะแชร์งานกับใครก็คลิกเลือก Invite People ที่มุมขวาด้านบนครับ คนที่ได้รับคำเชิญจะสามารถเข้ามาดูและแก้ไขงานได้โดยไม่ต้องมีพาสเวิร์ด

หรือจะให้คนรับเชิญมา comment ซึ่งตรง comment นี่แหละครับ เอามาประยุกต์สั่งการและติดตามงานกับเพื่อนร่วมทีมได้ ชี้โพรงให้แล้ว... ขอให้สนุกกับการใช้ให้ลืมว่าน้ำท่วมอยู่กันไปเลยนะครับ

อิอิ
https://www.facebook.com/#!/pages/Thin-Solution-Systems-Co-Ltd/212015452200712

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เข้าใช้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นผ่าน Chome Remote Desktop Google คุณกำลังคิดอะไรอยู่ครับ?

คุณผู้อ่าน... ท่านที่เคารพ

เมื่อผมจะ support คอมพิวเตอร์ให้กับลูกค้า ก็ใช้แต่ teamviewer เพราะใช้งานง่าย และควบคุม desktop ของเครื่องปลายทางได้อย่างดี ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ทำให้ผมเอาชีวิตรอดได้ในงานแก้ปัญหา อันจะละเลยบุญคุณไปไม่ได้

แต่ teamviewer ของกระผมก็ใช่ว่าจะใจดี มีเมตตาสักเท่าไหร่หรอกครับ เพราะลงผิดตัวเป็น commercial เมื่อไหร่ละก็พวกให้ใช้ได้แค่สามสิบวันเท่านั้นแถมหมดแล้วลงใหม่ก็ไม่ได้ หากไม่เจ๋งจริงคงต้องฟอร์แมตแล้วลงวินโดวส์กันใหม่เลย เพื่อให้เจ้าพ่อประคุณ Teamviewer เขาลงใหม่ได้

วันนี้ได้อ่านข่าวชิ้นหนึ่ง "เขาบอกว่า Chrome ได้ออก Remote Desktop Extension เพื่อแชร์การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับคนอื่น ๆ"

แชร์คอมพิวเตอร์นะครับ ไม่ใช่แชร์แค่ resource บางอย่าง หมายความว่าคนอื่นสามารถเข้าถึงและใช้เมาส์คีย์บอร์ด ฮาร์ดดิสก์ ซีดีรอม ต่าง ๆ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของเราได้ เหมือน remote desktop ของ windows แต่เจ๋งกว่าเพราะ remote desktop เมื่อคนอื่นเข้ามาก็จะ lock ไปอยู่หน้า login ใช้ได้ทีละฝั่งเท่านั้น แต่ Chome Remote Desktop ไม่ใช่อย่างงั้น ทั้งสองฝั่งใช้ได้พร้อมกันเลย เหมือนกับ teamviewer

โอ.. แบบนี้แล้วจะเอา teamviewer ผู้มีพระคุณของผมไปไว้ที่ไหนหล่ะคุณ google


กระผมคนพุทธ ลูกศิษย์พระ ผู้มีกาลามะสูตรอยู่ในหัวใจ ถ้าไม่ได้ทดลองคงไม่เชื่อง่าย ๆว่าจะเป็นดังนั้น อย่ากระนั้นเลย ลองทดสอบดู เขาให้ทำดังนี้ครับ


1. เปิดโปรแกรม Chrome แล้วเข้า Chrome Store ค้นหา extension ชื่อว่า Remote Desktop พบแล้วให้คลิกติดตั้งได้เลย อ้อโปรแกรมจะให้ใส่ Gmail ด้วยครับ และขึ้นคำเตือนว่า จะทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณถูกควบคุมได้ทุกอย่าง จะยอมไหม... ติดตั้งก็เพียง next , next ต่อไปจนจบ


Chome Remote Desktop Extension


2. Chrome จะเป็นแทบใหม่โชว์ ให้คลิกเปิด Chrome Remote Desktop ที่หมวด Apps ซึ่งจะนำพาท่านเข้าสู่การแชร์คอมพิวเตอร์ ถึงตรงสำคัญแล้วครับ


2.1 คลิกเลือก "แบ่งปันคอมพิวเตอร์เครื่องนี้" เมื่อต้องการให้คนอื่น (อย่างผมเนี่ย) เข้ามาควบคุม ซึ่งจะ generate code ออกมาให้ชุดหนึ่ง แล้วให้คุณบอกผม.. เอ้ย..บอกคนอื่นครับ
2.2 คลิกเลือก "เข้าถึงคอมพิวเตอร์ที่ใช้ร่วมกัน" ในกรณีที่คุณจะขอเข้าไปใช้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ซึ่งจะเปิดหน้าต่างให้คีย์ code ที่ได้มาจากข้อ 2.1 นั้น


หมายความว่า Chome ทั้งฝั่งเปิดแชร์และฝั่งควบคุมต้องติดตั้ง Chrome Remote Desktop ทั้งคู่นะครับ



3. เมื่อทั้งสองฝั่งพร้อมแล้ว ก็เริ่มกันได้เลยครับ หน้าจอทั้งหมด (Desktop) จะโชว์ที่ Tab Chrome ณ บัดเดี๋ยวนั้นเลย อยู่กับความเร็วของอินเทอร์เน็ตด้วยนะ สามารถใช้เมาส์คีย์บอร์ดเปิดโปรแกรมต่าง ๆ เข้าไปในฮาร์ดดิสก์ได้อย่างง่าย ๆ เลย

ถือว่าผ่านการทดสอบตามหลัก กาลามะสูตรมาเรียบร้อย ก็ให้นึกสงกาว่า Google มี extension นี้แล้วจะถือว่าครอบงำตลาด remote desktop หรือไม่ เพราะใช้งานฟรี และการทำงานหลายอย่างก็ออกมาเหมือน teamviewer เป๊ะเลย ทั้งการทะลุผ่านไฟล์วอลล์และการ genkey แต่ทีม develop ของ Chrome ก็บอกมาครับว่าใช้ เครื่องมือ library ต่าง ๆ ดังนี้

The protocol is something we designed and based on several google
technologies:
1. Bottom layer is p2p connection established by libjingle, this can be udp,
tcp or relay through google.
2. We use PseudoTcp implementation in libjingle to provide reliable
connection.
3. On top of that is SSL connection.
4. protobuf is used for structured data and framing.
5. Graphics is encoded using VP8.

อย่างไรก็ตาม teamviewer ของผมก็ยังมี File Transfer เด็ด ๆกว่าอยู่ ยังตัดกันไม่ขาด แต่ถ้าหากหมดอายุอีกเมื่อไหร่ แล้วให้ผมลง windows ใหม่ละก็ ฮึ่ม...

เอวัง...

ข่าวที่มาครับ
http://www.brianmadden.com/blogs/brianmadden/archive/2011/10/10/google-launches-chrome-remote-desktop-full-desktop-sharing-via-chrome.aspx#comments

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More