แนวทางลดค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในองค์กรแบบ win win

win win ทั้งผู้ใช้และเจ้าของบริษัท มีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด ? อยู่ที่แนวคิดครับ

คุณผู้อ่าน..ท่านที่เคารพครับอีกสี่ปีข้างหน้า ธุรกิจของเราจะไม่ใช่เพียงแค่แข่งขันกันเองเฉพาะภายในประเทศเท่านั้นแล้วครับ แต่เรากำลังจะแข่งขันกับอีกเก้าประเทศที่เรียกว่าสมาคมอาเซียน ตลาดของเราจะโตขึ้นอีกเก้าเท่าและตามมาด้วยคู่แข่งของเราก็จะโตอีกเก้าเท่าเช่นเดียวกันครับ.... วันนี้ถ้าท่านเจ้าของธุรกิจไม่คิดหากลยุทธใด ๆ ไว้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว เชื่อได้เหลือเกินว่า... ต้องน้ำตานองเช็ดหัวเข่าแน่นอน...และกลยุทธที่จะทำให้ธุรกิจของท่านแข่งขันได้โดยยืนซดกันได้ครบยก ก็คือ "กลยุทธการลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตเพื่อผลกำไร" นั่นประไร

ชื่อดูเท่ห์มากใช่ไหม แต่ปฏิบัตินี่ซิ ยากส์.. ต้นทุนที่ว่านั่นคือต้นทุนอะไร ในที่นี้ผมจะมุ่งเฉพาะไปที่ต้นทุนด้านไอทีอย่างเดียว เชื่อได้ว่าทุกบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอยู่ทุกวันนี้มีไอทีเป็นสายใยแห่งการเชื่อมโยงทุกหน่วยกันทั้งนั้น แล้วไอทีที่ว่านี้ไม่ใช่ของที่จะได้มาฟรี ๆ นะครับ (ถึงแม้ท่านจะคิดว่าได้มาฟรีก็ตามเถอะ) โดยเฉพาะค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ที่ถือว่าเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งนั้น แทบจะไม่มีใครซื้อมาใช้ให้ครบอย่างถูกต้องทุกตัว สำหรับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องแน่ ๆ หากบริษัทของท่านยังใช้ไปอยู่อย่างนี้ (แบบถูกบ้างผิดบ้าง หรือแบบผิดบ้าง ไม่ถูกบ้าง) อีกสี่ปีข้างหน้าท่านจะมีความภูมิใจไหม ถ้าจะต้องคุยธุรกิจหรือร่วมทำการค้าขายกับอีกเก้าประเทศ ท่านจะกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำหรือไม่ครับว่า ผลผลิตทุกอย่างที่เกิดจากธุรกิจของท่าน ล้วนบริสุทธิ์ผ่องใส มาจากการลงทุนลงแรงที่ต้องเสียสตางค์แลกมาทั้งน้านน... ฉะนั้นเพื่อให้เกิดความภูมิใจอย่างยั่งยืน เรามาทำไอทีของบริษัทให้มีต้นทุนลดลงแบบ win win ทั้งผู้ใช้และเจ้าของบริษัทกันก่อนดีไหม...

หากคิดว่าผมจะพาท่านไปซื้อซอฟต์แวร์ให้ถูกต้องทั้งหมดทุกเครื่อง ไม่ต้องอ่านต่อครับ....
หากคิดว่าผมจะพาท่านไปใช้ซอฟต์แวร์โอเพนซอสต์หมดทั้งบริษัท... หยุดอยู่แค่นี้ครับ...ไม่ต้องอ่านต่อ

เพราะสิ่งที่ผมจะบอกต่อไปนี้... ท่านไม่ต้องปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์ที่ท่านใช้อยูในปัจจุบันหรอก
ใช้อยู่อย่างใด ก็ใช้อยู่ต่อไป

แต่ของฟรี ก็ย่อมไม่มีในโลก ... ท่านก็ต้องยอมเสียบ้าง แต่เสียให้น้อยลง

ซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ได้น้อยลง เช่นจากที่ต้องซื้อ 50 license แต่เดิมก็ซื้อเพียง 1 license แล้วใช้ได้ห้าสิบเครื่อง แบบสบาย ๆ ไม่ผิดกฏหมายด้วย...

แต่เดิมท่านต้องซื้อโปรแกรม windows os 50 license ด้วยราคา 4500 บาท ก็เพียงแต่ซื้อ Windows OS เพียง 50 ไลเซนต์ ๆ ละ 400 บาท เท่านั้น

...ไม่ผิดครับ ไม่ผิด ไลเซนต์ละ 400 บาท หนึ่งร้อย license ก็ซื้อได้จริงไหม..

โปรแกรม AutoCAD , Photoshop , Antivirus คุณจะใช้คอมพิวเตอร์กี่เครื่องก็ตาม... ซื้อมาเลยครับไลเซนต์เดียว
ใช้ได้หมด... ดีไหม

ทั้งหมดนี้ถ้าท่านอยู่บนฐานความคิดเดิม โดยใช้คอมพิวเตอร์แบบเดิม ๆ ไม่มีทางทำได้แน่นอน
ท่านต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดครับ จึงจะพอเห็นหนทางดำเนินการตามที่พูดมานี้ได้

หากท่านคิดว่าเป็นไปไม่ได้
เดี๋ยวคราวหน้าผมจะมาเฉลยให้ดูว่า ... เปลี่ยนวิธีคิด จะช่วยลดต้นทุนไอทีได้อย่างไร

เราคนไทยซะอย่างเสียตังค์ได้ แต่ไม่ยอมเสียหน้า แต่เรื่องไลเซนต์เนี่ย เสียหน้าได้ แต่ไม่ยอมเสียตั้งค์
จะเอางั้นหรือครับ...

อิอิ..